The Call (2020) สามารถดูได้ใน Netflix
ถามคำเดียวหนังเกาหลีใต้เป็นอะไรกับมุกฆาตกรต่อเนื่องมากไหม ฮ่าๆๆๆ คือมันเป็นหนังที่เกาลี๊เกาหลีทั้งในแง่พล็อตฆาตกรต่อเนื่องและการบิ๊วเมโลดราม่าระหว่างแม่ลูก โดย The Call สร้างจุดแตกต่างใหม่ด้วยการเอาไอเดียสื่อสารข้ามเวลาแบบ Frequency/ซีรีส์ Signal มาใช้ คือเมื่อเหตุการณ์ในอดีตเปลี่ยนแปลงก็จะส่งผลถึงอนาคตทันทีทันใด ซึ่งไอเดียดังกล่าวถูกนำมาเล่นได้ชวนระทึกขวัญกดดันถึงขีดสุดในช่วงท้าย เป็นทริลเลอร์สไตล์โคตรเข้ามือเกาหลีจนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนถึงกรี๊ดกันนัก
.
'ซอยอน' (พัก ชินฮเย) ได้รับโทรศัพท์จาก 'ยองซุก' (จอน จงซอ) ซึ่งโทรมาจากอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนคุยข้ามเวลากันสักพักนึงก็ถึงจุดพลิกผันเมื่อยองซุกตัดสินใจช่วยชีวิตพ่อของซอยอน ทำให้ไทม์ไลน์ทั้งหมดเปลี่ยนแปลงทันทีจนนำมาสู่การให้กำเนิดฆาตกรต่อเนื่องที่จะมาบดขยี้ชีวิตของซอยอนเอง
.
เอาจริง ๆ ถ้าคนตามเพจมานานจะรู้ว่าเราชอบทฤษฎีข้ามเวลาแบบ Fixed Timeline เหมือน 12 Monkey, Harry Potter ภาค 3, และ The Time Traveler's Wife แต่พอเป็นทฤษฎี Dynamic หรือ Multiverse ที่ดิ้นได้เยอะ ๆ แบบนี้แล้วมันจะมีหลายช่วงที่รู้สึกไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร เวลาดูหนังหรือซีรีส์ที่ใช้ทฤษฎีแบบหลังในมุมมองเราเลยจะไม่ว้าวเหมือนแบบ Fixed ที่ทุกอย่างต้องเป๊ะจริง
.
สำหรับ The Call ก็ไม่มีข้อยกเว้นที่จะแหม่ง ๆ กับหลายช่วงในหนัง แต่ด้วยการเขียนบทในช่วงต้นที่ค่อย ๆ เรียงเรื่องราวไปทีละนิดและไม่พยายามกระโตกกระตากจะเล่นใหญ่เกินไป มันก็วน ๆ อยู่ที่ตัวละครไม่กี่ตัว แล้วค่อยเปลี่ยนสปีดเดินเรื่องรวดเร็วเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว หนังเลยดูค่อนข้างสนุก โดยเฉพาะช่วง 20 นาทีสุดท้ายที่หนังเปิดโหมดทริลเลอร์หนักมือดี แถมยังจูงมือคนดูกลับมาซึ้งได้อีก เลยรู้สึกเชิงบวกกับการหาทางลงหนังตรงนี้ ถ้าช่วงท้ายไม่มาทางนี้อาจจะจบที่เกรด 6.5 ไปแล้วก็ได้
Director: Chung-Hyun Lee
screenplay: Chung-Hyun Lee
Genre: thriller
7/10